วิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาที่อยู่เบื้องหลังการสวดมนต์ โดยโจนาธาน โกลด์แมน

วิทยาศาสตร์หลากหลายสาขาที่อยู่เบื้องหลังการสวดมนต์ โดยโจนาธาน โกลด์แมน ชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นทั้งนักเขียน นักดนตรี และอาจารย์สอนในสาขาการบำบัดด้วยเสียงและคลื่นความถี่ กล่าวว่า “ การสวดมนต์มีความเป็นศาสตร์แข็ง เช่น ฟิสิกส์ หรือเกี่ยวกับประสาทสัมผัสของมนุษย์ด้านการได้ยิน และอื่นๆ บางทีก็มีความเป็นศาสตร์แห่งจิตวิญญาณ เช่น การปฏิบัติของสายโยคะต่างๆที่มีการใช้เสียงด้วย”


โจนาธาน โกลด์แมน 

 ดร.เฮอเบิร์ท เบนสัน ศาสตราจารย์ นักเขียน อายุรแพทย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจ และผู้ก่อตั้งสถาบันการแพทย์ด้านร่างกายและจิตใจแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ศึกษาดูว่า การสวดมนต์ช่วยทำให้เกิดภาวะการตอบสนองอย่างผ่อนคลาย โดยนิยามการตอบสนองนี้ว่าเป็นความสามารถเฉพาะบุคคลที่จะกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสารเคมีและคลื่นสมองซึ่งทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย กระบวนการหายใจช้าลง และความดันเลือดลดลง

ดร.เดวิด ชานานอฟ –คาลซา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยเพื่อกลไกร่างกายและจิตใจแห่งสถาบันไบโอเซอกิตแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก และเป็นสมาชิกของศูนย์การแพทย์ผสมผสานที่มหาวิยาลัยแห่งนี้ รายงานถึงแนวคิดการใช้ การสวดมนต์เพื่อช่วยในการรักษาแบบฝังเข็ม

ดร.รานจิ สิงห์ นักประสาทวิทยาศาสตร์ นักเขียน นักธุรกิจ และนักการศึกษาโลก พบว่า
การสวดมนต์เจาะจงบทใดบทหนึ่งซ้ำๆ จะทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเกิดประโยชน์มากมายเช่น 
ลดขนาดเนื้องอก และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

มีการค้นพบด้วยว่า การสวดมนต์นั้นเพิ่มออกซิเจนให้สมอง ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ความดันเลือดดีขึ้น และทำให้คลื่นสมองสงบ และการสวดมนต์ยังสามารถทำให้สมองซีกซ้ายและซีกขวา"ซิ้งค์" กันได้ดี คือ สมองส่วนต่างๆ ทำงานเข้าขากัน หรือมีจังหวะตรงกันพอดี ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการคิดอ่าน-เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นไปด้วยดี

Complete and Continue