กิจกรรมที่ 2

กิจกรรมบทที่ 2

ฝึกความรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเอง/ความรับผิดชอบต่อศีลธรรมทางเศรษฐกิจ /ความรับผิดชอบต่อผู้อยู่ร่วมในสังคม ด้วยการละเว้นกรรมกิเลส 4 / ละเว้นอบายมุข6 / ละเว้นจากอคติ 4

กิจกรรมที่ 2.1 ให้นักศึกษาที่เป็นคฤหัสถ์ กล่าวคำสมาทานในศีล5 เว้นกรรมกิเลส 4 ละเว้นอบายมุข6 ตั้งใจประพฤติธรรมในหลักเบญจธรรม 5 และแผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ 

สำหรับนักศึกษาที่เป็นพระภิกษุให้ทบทวนเนื้อหา เว้นกรรมกิเลส 4 ละเว้นอบายมุข6 ตั้งใจประพฤติธรรมในหลักเบญจธรรม 5 หลักสัมมาทิฏฐิ10 และแผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์

วัตถุประสงค์ ฝึกสัมมาทิฏฐิ : ผลบุญ ผลบาป กรรมดีกรรมชั่วมีจริง โลกนี้โลกหน้ามีจริง   

เป้าหมายชีวิต 3 ระดับ ละเว้นอบายมุข6 ประกอบทิฏฐธัมมิกัตถะประโยชน์ หัวใจเศรษฐี

1.เพื่อให้นักศึกษาทราบถึงเพื่อให้ทราบถึงแนวคิดในการปฏิรูปมนุษย์ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ความรับผิดชอบต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ ด้วยการสมาทาน พร้อมมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติรักษาศีล5 มีสัมมาทิฏฐิ10ประการ ละเว้นกรรมกิเลส4 ละเว้นอบายมุข6 ละเว้นอคติ4 ระยะเวลาปฏิบัติกิจกรรม จำนวน 30 วัน 

วิธีปฏิบัติ กล่าวคำสมาทานรักษาศีล 5 เป็นภาษาบาลีและภาษาไทย และสมาทานในการละเว้นจากอบายมุข6 และกรอกลงในตารางช่องบันทึก

ศีล 5 เบญจศีล เป็นเครื่องรักษาเจตนาที่จะควบคุมกาย และวาจาให้เป็นปกติ

คำอาราธนาศีล 5 (กล่าวคนเดียว)  

(ถ้ากล่าวหลายคน เปลี่ยนจากอะหังภันเต เป็นมะยังภันเต และยาจามิ เป็นยาจามะ) 


อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ    ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ

ทุติยัมปิ อะหังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ   ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ

ตะติยัมปิ อะหังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามิ

กล่าวคำขอถึงไตรสรณคม์

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

สมาทาน ศีล 5 

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ 

ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง และใช้ผู้อื่นฆ่า

อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

  ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

 ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย

มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ 

 ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการพูดไม่จริง

สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

        ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจาการดื่มสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

เว้นจากกรรมกิเลส 4 ประการ คือ 

1.เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง และใช้ผู้อื่นฆ่า

2. เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

3.เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย

4.เว้นจากการพูดไม่จริง

เบญจธรรม  ธรรม 5 ประการ เหตุให้ผู้ปฏิบัติเจริญก้าวหน้า

1.ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่า จะมีความเมตตากรุณา 

2.ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่า จะประกอบสัมมาอาชีวะ อาชีพสุจริต

3.ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่า จะมีกามสังวร คือ การสำรวมในกาม

4.ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่าจะรักษา สัจจะ คือ การพูดความจริง 

5.ข้าพเจ้ามีความตั้งใจว่าจะมีสติสัมปชัญญะ

หลักธรรมอคติ 4 

           ข้าพเจ้ามีความตั้งใจละเว้นอคติ4 ตั้งใจรับผิดชอบต่อความเป็นมนุษย์ของผู้อยู่ร่วมในสังคม ด้วยการไม่มีอคติ 4 คือ

1. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นความลำเอียงเพราะรัก

2. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นความลำเอียงเพราะชัง

3. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นความลำเอียงลำเอียงเพราะโง่

4. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นความลำเอียงเพราะกลัว

หลักธรรม เว้นอบายมุข 6 

 3. ข้าพเจ้ามีความตั้งใจรับผิดชอบต่อศีลธรรมทางเศรษฐกิจด้วยการเว้นอบายมุข 6 คือ

1. ข้าพเจ้าจะตั้งใจละเว้นจากการดื่มสุรา และยาเสพติดประเภทต่าง ๆ

2. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นจากการเที่ยวกลางคืน

3. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นจากการหมกมุ่นในสิ่งบันเทิงเริงรมย์

4. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นจากเล่นการพนัน

5. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นจากการคบคนชั่วเป็นมิตร

6. ข้าพเจ้าตั้งใจละเว้นจากการเกียจคร้านในการทำงาน

หลักธรรม สัมมาทิฏฐิ 10 ประการ 

ข้าพเจ้าตั้งใจคิดดี พูดดี ทำดี ตามหลักสัมมาทิฏฐิ 10 ประการ มีความเห็นถูกต้องในโลกและชีวิต มีดังนี้ คือ 

1 การแบ่งปันมีผลดีจริง

2 การสงเคราะห์ที่ทำแล้วมีผลดีจริง

3 การบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลดีจริง

4 กฎแห่งกรรมมีจริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วจริง

5. โลกนี้มีที่มาจริง เกิดจากผลกรรมข้ามชาติ

6.โลกหน้ามีจริง ตายแล้วไม่สูญ ต้องเกิดใหม่อีก

7. มารดามีพระคุณอย่างยิ่ง

8. บิดามีพระคุณอย่างยิ่ง

9. โอปปาติกะมีจริง เกิดด้วยผลบุญ และผลบาป

10. พระอรหันต์ ผู้รู้แจ้งโลกนี้ โลกหน้าและยินดีแนะนำสั่งสอนให้ผู้อื่นหมดกิเลสตามมีจริง

คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น ทำหน้าที่กัลยาณมิตรมีความปรารถนาดีต่อชาวโลก

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุข เป็นสุขเถิดอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยสิ้นเถิด

ท่านทั้งหลายที่ท่านได้ทุกข์ ขอให้ท่านมีความสุข

ท่านทั้งหลายที่ท่านได้สุข ขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้น

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เกิดเป็น ชะลาพุชะ ที่เกิดเป็น อัณทะชะ ที่เกิดเป็น สังเสทะชะ ที่เกิดเป็น โอประปาติกะ จงมารับกุศลผลบุญให้ถ้วนทั่วทุกตัวตนเทอญ

Complete and Continue